นอกจากนี้ ผู้นำจีนและสหรัฐยังได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นคาบสมุทรเกาหลี โดยนายสี จิ้นผิงกล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันเพื่อเดินหน้าคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการผลักดันให้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้กลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้ง
-- บิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล ดิ่งลง 18% เมื่อวานนี้ ใกล้หลุดระดับ 11,000 ดอลลาร์ จากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับการที่จีนและเกาหลีใต้จะออกมาตรการคุมเข้มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
บิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับ 11,191.59 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ และทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 3 ปี โดยการดิ่งลงของบิทคอยน์ยังได้ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ โดยอีเธอเรียมร่วงลง 23% ขณะที่ริพเพิลทรุดตัวลง 33%
-- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สหรัฐอาจต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,792.86 จุด ลดลง 10.33 จุด หรือ -0.04% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,223.69 จุด ลดลง 37.38 จุด หรือ -0.51% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,776.42 จุด ลดลง 9.82 จุด หรือ -0.35%
-- สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร โดยความเคลื่อนไหวของ BOJ เป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นายอาร์โด แฮนสัน กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB เปิดเผยว่า ECB อาจประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE หลังจากเดือนก.ย.นี้ หากเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีการปรับตัวตามที่ ECB คาดการณ์ไว้
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ชะลอตัวลงในเดือนม.ค. โดยอยู่ที่ระดับ 17.7 หลังจากแตะระดับ 18.0 ในเดือนธ.ค.
เฟดสาขานิวยอร์กระบุว่า คำสั่งซื้อใหม่ยังคงมีการขยายตัว แต่ในอัตราที่ต่ำกว่าในเดือนธ.ค. ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และยังคงมีแผนใช้จ่ายด้านทุน
-- นายฟรองซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลอ กรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB จะต้องจับตาความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร หลังจากที่ยูโรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเทียบดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของยูโรโซน และการคาดการณ์ที่ว่า ECB จะคุมเข้มนโยบายการเงินในไม่ช้า
-- ซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 4 ที่ 1.28 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.19 ดอลลาร์/หุ้น
ซิตี้กรุ๊ปยังระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 1.7255 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษยังคงตัดสินใจที่จะออกจากสหภาพยุโรป (EU) หลังจากที่ผู้นำ EU เปิดช่องให้อังกฤษทำการทบทวนการตัดสินใจกรณีแยกตัวออกจาก EU (Brexit)
ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้เปิดทางให้อังกฤษสามารถมีโอกาสทบทวนการตัดสินใจแยกตัวออกจาก EU อีกครั้ง
-- ทางการอังกฤษเตรียมสอบสวนอดีตผู้บริหารของบริษัทคาริลเลียน ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจก่อสร้างของอังกฤษ เพื่อหาสาเหตุการล้มละลายของบริษัทเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานถึง 200 ปี ซึ่งทำธุรกิจก่อสร้างนับตั้งแต่โรงพยาบาลไปจนถึงทางรถไฟ
ทั้งนี้ คาริลเลียนประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก หลังจากที่เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการที่มีวงเงินลงทุนสูง และการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้บริษัทออกคำเตือนเกี่ยวกับผลกำไรหลายครั้ง ขณะที่ประสบภาวะขาดทุนในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบการเงินมากกว่า 1 พันล้านปอนด์
-- พื้นที่บางส่วนของรัฐเท็กซัสและแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐต้องเผชิญกับพายุฤดูหนาวระลอกใหม่ ส่งผลให้สายการบินหลายแห่งต้องสั่งยกเลิกเที่ยวบินเป็นจำนวนรวมกันกว่าหลายร้อยเที่ยวบิน
สำหรับสายการบินที่สั่งยกเลิกเที่ยวบินแล้ว มีทั้งอเมริกันแอร์ไลน์ส เดลต้าแอร์ไลน์ส และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส ครอบคลุมเที่ยวบินของวันอังคารที่ 16 ม.ค. และพุธที่ 17 ม.ค.
นอกจากนี้ สายการบินบางแห่งยังเตรียมยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางนิวยอร์ก บอสตัน และฟิลาเดลเฟียด้วย เนื่องจากพายุดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวไปยังจุดนั้น