นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า แม้ค่าใช้จ่ายสำหรับการสนับสนุนการดูแลเด็กเล็กและการศึกษาจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ญี่ปุ่นจะไม่ลดละความพยายามในการแก้ไขสถานการณ์ทางการเงิน และยังตั้งเป้าที่จะทำให้งบประมาณเบื้องต้นนั้นอยู่ในสภาพที่เกินดุล
ในวันแรกของการประชุมสามัญของสภาไดเอ็ทนั้น รมว.คลังญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้มีการเดินหน้าแผนการใช้งบประมาณของประเทศอย่างรวดเร็ว เพื่อให้รัฐบาลสามารถใช้ขั้นตอนทางนโยบายทุกขั้นตอน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับรากฐานสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นายอาโสะกล่าวสุนทรพจน์เชิงนโยบายว่า "เราจะไม่ลดละความพยายามในการฟื้นฟูด้านการเงินและความพยายามในการบรรลุเป้าหมายการเกินดุลเบื้องต้น"
รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะจัดหาทุนสำหรับงบการสนับสนุนการดูแลเด็กเล็กที่เพิ่มขึ้นและสำหรับการศึกษาระดับอนุบาล จากคาดการณ์รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคงวดต่อไปในปี 2562
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้งบประมาณสำหรับการชำระหนี้ของรัฐบาลนั้นลดลง ซึ่งนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเลื่อนเป้าหมายการเกินดุลงบประมาณออกไปเป็นปี 2570 จากเดิมที่ตั้งเป้าบรรลุไว้ภายในปีงบประมาณ 2563
การขาดดุลเบื้องต้นหมายความว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถจัดการงบประมาณรายปี ที่ไม่นับรวมต้นทุนการชำระหนี้โดยปราศจากการออกพันธบัตรใหม่
ทั้งนี้ สถานภาพทางการเงินของญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่ย่ำแย่ที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว ส่งผลให้เกิดการเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูด้านการคลัง เนื่องจากมีคาดการณ์ว่า ประชากรสูงวัยของประเทศจะเป็นปัจจัยเร่งและทำให้ค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคมเพิ่มสูงขึ้น
นายอาโสะกล่าวว่า "สภาไดเอ็ทจำเป็นต้องอนุมัติงบประมาณ (สำหรับปีการเงิน 2561) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด เพื่อความสำเร็จในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการปรับโครงสร้างด้านการคลัง"