นายสก็อต มอร์ริสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออสเตรเลีย บรรจุแผนการปรับลดภาษีเป็นหนึ่งในเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลในปี 2561
รัฐบาลออสเตรเลียออกมาเปิดเผยเมื่อต้นเดือนม.ค.ว่า เศรษฐกิจของประเทศมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 400,000 ตำแหน่ง ระหว่างเดือนธ.ค.2559-ธ.ค.2560 ซึ่งมอร์ริสันกล่าวว่าเป็นผลพวงจากการที่รัฐบาลผ่านแผนการปรับลดภาษีนิติบุคคลรอบแรกเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลต่อบริษัทที่มีรายได้เกินกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลต้องเผชิญกับกระแสคัดค้านอันหนักหน่วงที่มีต่อแผนการของมอร์ริสันในการลดอัตราภาษีลงจาก 30% เป็น 25% ในช่วงทศวรรษหน้า
พรรคแรงงานออสเตรเลีย (ALP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ออกมาคัดค้านแผนการดังกล่าวโดยมองว่าเป็น "การเสียเงินเกินปกติ" ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาฝ่ายเป็นกลาง ซึ่งรัฐบาลต้องการเสียงสนับสนุนจากกลุ่มนี้เพื่อผ่านร่างกฎหมาย ก็ได้เคยปฏิเสธร่างกฎหมายดังกล่าวมาแล้ว
โดยถึงแม้ต้องเผชิญอุปสรรค์รอบด้าน แต่มอร์ริสันยืนยันว่า รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่ละลดภาษีเงินได้ส่วนบุคคล โดยอธิบายว่าปี 2561 นี้ถือเป็นปีแห่งโอกาสสำหรับทั้งธุรกิจและแรงงาน
มอร์ริสันกล่าวกับแฟร์แฟกซ์ มีเดีย ว่า "พวกเขาต้องการการสนับสนุนจากนโยบายที่เหมาะสม และนั่นหมายถึงการลดภาระทางภาษีให้กับธุรกิจและชาวออสเตรเลียที่ทำงานหนัก"
เขากล่าวว่า "ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในปี 2561 ก็คือเราจะเดินหน้าผลักดันงบประมาณ และกลับมาที่รัฐสภาเพื่อหาทางสนับสนุนแผนการลดภาษีนิติบุคคลของเรา"