สำนักงานความมั่นคงด้านการขนส่งของสหรัฐ (TSA) ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าบรรทุกทางอากาศที่มีต้นทางจากประเทศแถบตะวันออกกลาง 5 ประเทศ เนื่องจากหวั่นว่าจะเป็นช่องทางก่อการร้าย
TSA ได้สั่งการให้ผู้ให้บริการ 6 รายที่บรรทุกสินค้าทางอากาศจากสนามบิน 7 แห่งในอียิปต์ จอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีปลายทางที่สหรัฐนั้น เข้ารับการตรวจสอบอย่างละเอียด
นายเดวิด เพคอสค์ ผู้จัดการ TSA ระบุในคำสั่งฉุกเฉินที่มีผลตั้งแต่เช้าเมื่อวานนี้ว่า "แวดวงการบินพาณิชย์ยังคงถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้องมีการยกระดับมาตรการคัดกรองและความปลอดภัย เพื่อคุ้มครองเที่ยวบินระหว่างประเทศที่บินตรงมายังสหรัฐอเมริกา"
"เราได้เลือกประเทศกลุ่มนี้ก็เพราะกลุ่มก่อการร้ายเคยแสดงความตั้งใจที่จะใช้ประเทศดังกล่าวเป็นจุดโจมตีการบิน" TSA ระบุ "สิ่งนี้ล้วนเป็นไปตามข่าวกรองที่เราได้มา"
คำสั่งดังกล่าวกำหนดให้สายการบินต่างๆระบุข้อมูลสินค้าบรรทุกตั้งแต่จุดแรกๆก่อนที่จะโหลดขึ้นเครื่อง จากนั้นข้อมูลดังกล่าวจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายจากฝั่งสหรัฐ
TSA ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ ไม่ได้ระบุถึงภัยคุกคามเบื้องหลังการออกคำสั่งใหม่นี้ แต่ได้มีการกล่าวถึงแผนการก่อการร้ายที่ถูกสกัดกั้นในสนามบินที่ซิดนีย์ โดยแผนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อระเบิดเครื่องบินลำหนึ่งเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา
สำหรับแผนก่อการร้ายที่กล่าวถึงนี้ ทางฝ่ายบังคับใช้กฎหมายของออสเตรเลียรายงานว่า มีการบรรทุกระเบิดทางทหารเกรดสูงทางอากาศจากประเทศตุรกี
TSA ระบุว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมานั้น ได้ย้ำเตือนให้ทาง TSA และพันธมิตรด้านการบินทั้งหมดของเรา ออกมาตรการครอบคลุมผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศด้วย เพื่อเดินหน้ารักษาความปลอดภัยให้กับท้องฟ้าของเรา"