สมาคมการเงินอินเทอร์เน็ตจีน (NIFA) ได้ออกมาเตือนว่า นักลงทุนชาวจีนควรตระหนักถึงความเสี่ยงในการระดมทุนด้วยสกุลเงินดิจิทัล (ICO) หรือ Initial Coin Offering รวมถึงการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในต่างประเทศ
"นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงจากการทำ ICO ในต่างแดน หลังแพลตฟอร์มซื้อขายบางแห่งได้ปิดตัวลง ขณะที่อีกหลายๆแห่งถูกจำกัดการเข้าถึง" NIFA ระบุผ่านแถลงการณ์ "และเมื่อไม่มีกฎข้อบังคับเจาะจงแล้ว แพลตฟอร์มซื้อขาย ICO ในต่างประเทศจึงมีความเสี่ยงในแง่ของความปลอดภัยในระบบ การปั่นราคา และการฟอกเงิน"
ICO เปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆสามารถออก "เหรียญ" หรือเงินดิจิทัลแก่นักลงทุน เพื่อแลกกับสกุลเงินที่มีสภาพคล่องมากกว่า เช่น บิตคอยน์ โดยไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามระเบียบเหมือนกับช่องทางปกติ เช่น การเปิดเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO)
เมื่อเทียบกับ IPO ซึ่งหมายถึงการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในบริษัทแล้ว การทำ ICO จะทำให้นักลงทุนได้รับเหรียญดิจิทัลของบริษัทที่เป็นผู้พัฒนาเหรียญดังกล่าว ซึ่งอาจมีค่ามากขึ้นหากบริษัทนั้นๆมีผลการดำเนินงานดี และสกุลเงินดังกล่าวมีความต้องการมากขึ้น
ธนาคารกลางจีน (PBOC) เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า "ICO เป็นการระดมทุนที่ไม่ได้รับอนุญาตและผิดกฎหมาย ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เช่น การฉ้อโกงทางการเงินและธุรกิจพีระมิด"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลจีนได้มีการกวดขันมาตรการกำกับดูแลบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เพื่อควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน โดยได้มีการสั่งปิดตลาดซื้อขายและระงับการซื้อขาย
เมื่อเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา ทางการจีนได้สั่งห้ามการทำ ICO และสั่งปิดตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดในจีน เนื่องจากตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนดึงดูดนักนวัตกรรม แต่ก็ดึงดูดคนโกงด้วย ส่งผลให้เกิดกระแสวิตกในเรื่องความเสี่ยงทางการเงิน