ญี่ปุ่นเล็งยกระดับความปลอดภัยซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล หลังถูกแฮกเกอร์โจรกรรมเงินจากระบบ

นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้เสนอให้มีการยกระดับการรักษาความปลอดภัยการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล หลังจากบริษัท Coincheck ผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงิน NEM ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล เปิดเผยว่า แฮกเกอร์ได้โจรกรรม NEM ไปจากระบบเป็นจำนวนเงินสูงถึง 5.8 หมื่นล้านเยน

"สำนักงานกำกับการเงิน (FSA) จำเป็นต้องตรวจตราการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเพื่อปกป้องผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการยกระดับนวัตกรรมและการควบคุมความปลอดภัย" อาโสะกล่าว

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Coincheck ประกาศว่า NEM จำนวน 5.8 หมื่นล้านเยน (534 ล้านดอลลาร์) ได้สูญหายไปจากตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เนื่องจากถูกแฮกเกอร์ลักลอบเจาะเข้าระบบ

การสูญหายเงินดังกล่าว ทำให้ Coincheck ประกาศระงับการซื้อขาย และฝากถอนเงิน NEM ขณะที่มีลูกค้าราว 260,000 คนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้

Coincheck ประกาศว่า ทางบริษัทจะจ่ายเงินคืนกว่า 4.6 หมื่นล้านเยน (423 ล้านดอลลาร์) ให้แก่ลูกค้าที่สูญเสียสกุลเงิน NEM จากการโจรกรรมของแฮกเกอร์ โดยจำนวนเงินที่ทางบริษัทจ่ายคืนให้นี้ คิดเป็นเกือบ 90% ของมูลค่าความเสียหาย

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เงินที่หายไปนั้นถูกเก็บอยู่ในบัญชีเงิน "Hot Wallet" ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และมีความปลอดภัยต่ำ ตรงกันข้ามกับบัญชีเงิน "Cold Wallet" ที่มีการเก็บรักษาอย่างปลอดภัยในรูปแบบออฟไลน์

วงเงิน NEM ที่สูญหายในครั้งนี้ มากกว่าที่ Mt. Gox ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายบิตคอยน์ในญี่ปุ่น แจ้งว่ามีการสูญหายบิตคอยน์วงเงิน 4.8 หมื่นล้านเยนในปี 2557