ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร โดยดาเนียล นูย ประธานคณะกรรมการฝ่ายกำกับดูแลตลาดการเงินของ ECB ได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำปีเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นางนูยกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร และปรับงบดุลบัญชีให้มีความสมดุล เนื่องจากปี 2561 ถือเป็นปีแห่งโอกาส
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ ECB รายนี้ยังกล่าวด้วยว่า เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วหลังจากที่ ECB ได้ออกมาตรการกำกับดูแลด้านการธนาคารในยูโรโซน โดยระยะเริ่มแรกของการใช้มาตรการดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่กรอบงานด้านการกำกับดูแลในปัจจุบันนั้น มีเสถียรภาพ และสามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งจะเอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศักยภาพในการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนได้อ่อนแอลงอย่างมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ระต่ำเป็นพิเศษซึ่ง ECB นำมาใช้นั้น ทำให้ภาคธนาคารประสบความยากลำบากในการทำกำไร
ส่วนในการประชุมครั้งล่าสุดของ ECB เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%