ผลการสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ระบุว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐได้ปรับตัวลงในเดือนที่แล้ว หลังจากที่ดีดตัวขึ้นในช่วงสิ้นปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ผลการสำรวจพบว่า ค่าเฉลี่ยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคในช่วง 1 ปีข้างหน้าได้ลดลงสู่ระดับ 2.71% ในเดือนม.ค. จากระดับ 2.82% ในเดือนธ.ค.
ส่วนค่าเฉลี่ยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 3 ปีข้างหน้า ลดลงสู่ 2.79% ในเดือนม.ค. จาก 2.89% ในเดือนธ.ค.
ค่าเฉลี่ยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อระยะ 1 ปี และ 3 ปีได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนในเดือนธ.ค.
เฟดเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อดังกล่าว ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้
ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 2.1% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีดังกล่าวจะทรงตัวที่ระดับดังกล่าวในเดือนม.ค.
"หากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าคาด ก็จะสร้างความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นในตลาด แต่ถ้าตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง และตลาดหุ้นพุ่งขึ้น" นายเจสัน แวร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของอัลเบียน ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าว