-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ
"มาตรการดังกล่าวจะมีการลงนามบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะช่วยปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ และจะทำให้พวกคุณสามารถพลิกฟื้นอุตสาหกรรมให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนว่า จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากประเทศใดบ้าง และจะดำเนินมาตรการดังกล่าวเป็นเวลานานเท่าใด
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อคืนนี้ว่า เขายังไม่พบสัญญาณเงินเฟ้ออย่างชัดเจนที่เกิดจากค่าจ้างในขณะนี้ หลังจากที่คำกล่าวเตือนเงินเฟ้อของเขาในวันอังคาร ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างหนัก
นายพาวเวลยังกล่าวว่า ตลาดแรงงานยังคงสามารถปรับตัวแข็งแกร่งมากขึ้นอีก โดยไม่ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังระบุด้วยว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่จับตาไม่ให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างร้อนแรงเกินไป แต่เฟดก็จะไม่ขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ประธานเฟดยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป
-- รัฐบาลจีนได้ประกาศเตือนกลุ่มดีลเมคเกอร์ทั่วโลกที่มีการติดต่อธุรกิจกับมหาเศรษฐีจีน โดยทางการจีนยืนยันว่าไม่มีมหาเศรษฐีจีนรายใดที่ทำผิดแล้วจะหลุดพ้นอำนาจของรัฐบาลไปได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนได้เข้าควบคุมกิจการของบริษัทอันปัง อินชัวแรนซ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของจีน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 2561 ไปจนถึงวันที่ 22 ก.พ. 2562 หลังจากนายอู๋ เสี่ยวฮุย อดีตประธานอันปังได้ถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหาอาชญากรทางเศรษฐกิจ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนที่จะเข้าไปควบคุมกิจการของบริษัทอันปังนั้น ประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการการกำกับดูแลด้านการประกันของจีน เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางจีน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลด้านการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ การธนาคาร และหลักทรัพย์
อันปังได้ระบุในแถลงการณ์ว่า การดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมายถือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อศักยภาพในการชำระหนี้สินของบริษัท จึงเป็นสาเหตุให้รัฐบาลจีนตัดสินใจเข้าควบคุมกิจการของบริษัท
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.ของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 58.6 ลดลงจากระดับ 59.6 ในเดือนม.ค. แต่ขยับขึ้นจากดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนก.พ.ที่ระดับ 58.5
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายในเดือนก.พ.ของเยอรมนี ลดลงสู่ระดับ 60.6 จากระดับ 61.1 ในเดือนม.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นเดือนก.พ.ที่ระดับ 60.3
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายในเดือนก.พ.ของฝรั่งเศส ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.9 ในเดือนก.พ. จากระดับ 58.4 ในเดือนม.ค. และลดลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นเดือนก.พ.ที่ระดับ 56.1
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.2 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 55.3 ในเดือนม.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอิตาลี อยู่ที่ 56.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน และต่ำกว่าระดับ 59.0 ในเดือนม.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสเปน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.0 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 55.2 ในเดือนม.ค.
-- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับ 8.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551
ยูโรสแตทเปิดเผยว่า จำนวนผู้ว่างงานลดลงสู่ระดับ 14.111 ล้านคนในเดือนม.ค. จากระดับ 14.121 ล้านคนในเดือนธ.ค.
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
-- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. จากระดับ 59.1 ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 58.7
-- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. จากระดับ 55.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2558
-- กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนม.ค.ลดลงสู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.7% ในเดือนธ.ค.
ด้านกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานว่างในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 1.59 ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนธ.ค. 17 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวหมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 159 อัตรา สำหรับผู้หางานทุกๆ 100 คน