รัฐบาลญี่ปุ่นออกมากล่าวปกป้องอุตสาหกรรมการส่งออกเหล็กและอลูมิเนียม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์หน้า โดยอ้างว่าเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กล่าวในการแถลงข่าวว่า "เราไม่คิดว่าการนำเข้าหล็กจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรนั้น จะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ"
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนว่า จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากประเทศใดบ้าง และญี่ปุ่นเองก็ต้องการได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีดังกล่าว
นายเซโกะเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะพูดคุยกับสหรัฐถึงจุดยืนของประเทศ และกำลังรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอการเก็บภาษีดังกล่าว โดยระบุว่า "รายละเอียดและภาพรวมของมาตรการดังกล่าวยังคงไม่มีความชัดเจน"
ด้านนายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่นกล่าวว่า "ญี่ปุ่นจะจับตาอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่านโยบายดังกล่าวของสหรัฐจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างไร"
นอกจากนี้ โมเตกิยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้สหรัฐตัดสินใจดังกล่าวนั้น น่าจะเกิดจากการที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีน มากกว่าประเด็นในเรื่องของญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้เปิดเผยในระหว่างการประชุมร่วมกับผู้ผลิตเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ