สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาแผนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน รวมถึงมาตรการควบคุมการลงทุนของจีนในสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐมองว่าจีนมีพฤติกรรมโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อปีที่ผ่านมา สหรัฐได้เริ่มตรวจสอบจีนในกรณีการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา ส่งผลให้สหรัฐมีอำนาจตามกฎหมายการค้าในการกำหนดข้อจำกัดทางการค้า หากพบว่าตนถูกเอาเปรียบ
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า หากสหรัฐสั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจริงแล้ว อาจครอบคลุมถึงสินค้าตั้งแต่เครื่องแต่งกายไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม เพื่อปกป้องภาคอุตสาหกรรมของประเทศ
อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวถูกคัดค้านจากพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุด นายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว อันเป็นผลจากแผนงานดังกล่าว
นายโคห์นมองว่า แผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของปธน.ทรัมป์ซึ่งอิงจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐนั้น เป็นรายงานที่ใช้ไม่ได้ เนื่องจากไม่มีการวิเคราะห์ถึงตำแหน่งงานที่จะหายไปจากการจัดเก็บภาษีดังกล่าว นอกจากนี้ แผนการเรียกเก็บภาษีของปธน.ทรัมป์ยังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสภาคองเกรส โดยนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า เขารู้สึกเป็นห่วงอย่างมากเกี่ยวกับแผนการจัดเก็บภาษีใหม่ของปธน.ทรัมป์ และเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐยุติแผนเก็บภาษีดังกล่าว