Spotlight: นักวิเคราะห์มองสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้เศรษฐกิจโลกวุ่นวาย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 7, 2018 13:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากประเทศอื่นๆ เพื่อปกป้องภาคอุตสาหกรรมของประเทศนั้น จะนำมาซึ่งปัญหามากมายต่อเศรษฐกิจโลก

แม้มีเสียงคัดค้านจากภาคธุรกิจและพันธมิตรคู่ค้า แต่ปธน.ทรัมป์ยังยืนยันที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมในอัตรา 10% โดยเขากล่าวว่า "สงครามการค้าเป็นสิ่งที่ดีและชนะได้ไม่ยาก"

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า การเรียกเก็บภาษีฝ่ายเดียวอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต้องหยุดชะงัก และบั่นทอนระบบการค้าโลกที่กำกับดูแลด้วยกฎระเบียบ

ผลการศึกษาซึ่งร่วมจัดทำโดยวาร์วิค แม็คคิบบิน นักวิชาการจากสถาบันบรูกคิงส์ ซึ่งเป็นองค์กรด้านนโยบายสาธารณะของสหรัฐ พบว่า หากทั่วโลกเกิดสงครามการค้าย่อมๆ จากการปรับขึ้นภาษี 10% แล้ว ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศส่วนใหญ่ น่าจะปรับตัวลงระหว่าง 1-4.5% โดย GDP สหรัฐน่าจะลดลง 1.3% นอกจากนี้ หากภาษีถูกปรับขึ้นเป็น 40% เศรษฐกิจโลกก็จะถดถอยในระดับลึก

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนว่า การที่ปธน.ทรัมป์ประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้านั้น ไม่ได้จะสร้างความเสียหายต่อประเทศอื่นๆเพียงเท่านั้น แต่ยังจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐเองด้วย ซึ่งรวมถึงภาคการผลิตและก่อสร้างที่ต้องใช้เหล็กและอลูมิเนียมเป็นจำนวนมาก

เดอะ เทรด พาร์ทเนอร์ชิป บริษัทที่ปรึกษาของสหรัฐ เปิดเผยว่า การเรียกเก็บภาษีน่าจะเข้ามาเพิ่มการจ้างงานในภาคโลหะ เหล็กกล้า และโลหะนอกกลุ่มเหล็ก (อลูมิเนียมเป็นหลัก) ประมาณ 33,464 ตำแหน่ง แต่สำหรับภาคส่วนอื่นๆรวมกันน่าจะมีตำแหน่งงานลดลง 179,334 ตำแหน่ง หรือเท่ากับว่าเสียงานไปเกือบ 146,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ แผนเก็บภาษีดังกล่าวยังจะเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ต่อระบบการค้าโลกที่กำกับดูแลด้วยกฎระเบียบ โดย IMF ได้แสดงความกังวลว่า ประเทศอื่นๆ อาจตอบโต้ในลักษณะเดียวกันโดยอ้างเหตุผลด้าน "ความมั่นคงของชาติ" เพื่อกำหนดข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าประเภทต่างๆ

แชด บาวน์ นักวิชาการจากสถาบันเศรษฐกิจระหว่างประเทศปีเตอร์สัน ซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองในสหรัฐ กล่าวว่า "การที่ปธน.ทรัมป์ประกาศข้อจำกัดในการนำเข้า มีแต่จะทำให้องค์การการค้าโลกต้องเสียกับเสีย"

แม้พันธมิตรคู่ค้าของสหรัฐมีสิทธิ์คัดค้านการกระทำของสหรัฐต่อ WTO แต่นายบาวน์มองว่า คำตัดสินที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเอื้ออำนวยต่อประเทศคู่ค้าหรือสหรัฐ มีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายทั้งในแง่ของการเมืองและเศรษฐกิจ

หากสหรัฐแพ้คดี รัฐบาลสหรัฐก็อาจตอบโต้ด้วยการเพิกเฉยต่อคำตัดสิน บ่อนทำลาย WTO หรือไม่ก็ถอนตัวจาก WTO ขณะเดียวกัน หากสหรัฐชนะคดี ประเทศอื่นๆก็อาจจะออกมาดำเนินการในลักษณะเดียวกันเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ

หากพันธมิตรคู่ค้าของสหรัฐไม่ยื่นข้อพิพาทต่อ WTO นายบาวน์ กล่าวว่า "สิ่งนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณบั่นทอนความเชื่อมั่นที่ว่า ระบบที่กำกับด้วยกฎระเบียบนั้นยังคงสามารถจัดการกับความขัดแย้งทางการค้าได้"

บทวิเคราะห์โดยเจียง หยูจวน และจิน หมินหมิน

สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ