นายซือ เหยาปิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยว่า จีนจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านการเงินและระบบภาษีให้ดีขึ้น เพื่อรองรับโครงการยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative)
นายซือกล่าวในการแถลงข่าวนอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ว่า กระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างการจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศ เพื่อสร้างระบบการจัดหาเงินทุนระยะยาวที่มีเสถียรภาพ, ยั่งยืน, หลากหลาย และสามารถควบคุมความเสี่ยงได้
กระทรวงการคลังจะเดินหน้าผลักดันการเจรจาเรื่องภาษีทั้งในระดับพหุภาคีและระดับทวิภาคี เพื่อส่งเสริมการสร้างเขตการค้าเสรี, สนับสนุนการเปิดกว้างระหว่างกัน และปฏิบัติตามข้อตกลงในการยกเว้นภาษีขาเข้าที่ได้ลงนามไว้กับประเทศต่างๆตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่
รมช.การคลังจีนกล่าวว่า จีนจะอำนวยความสะดวกในการพัฒนาความร่วมมือและการทำงานร่วมกันในเรื่องภาษีระหว่างประเทศ, การกำจัดการเลือกปฏิบัติในเรื่องการกำหนดนโยบายภาษี และในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและโอนกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ (BEPS)
ทั้งนี้ โครงการ Belt and Road Initiative เป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลจีนได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2556 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างเครือข่ายด้านการค้าและโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมเอเชีย แอฟริกา และยุโรปเข้าด้วยกันตามแนวเส้นทางสายไหมในอดีตและเส้นทางการค้าอื่นๆ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจีนระบุว่า โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากประเทศและองค์กรระหว่างประเทศแล้วกว่า 100 แห่งทั่วโลก