กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 5.65 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าโดยรวมของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปีในเดือนม.ค. โดยเพิ่มขึ้น 5.0% สู่ระดับ 5.66 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551 จากระดับ 5.39 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าจะอยู่ที่ระดับ 5.51 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 ขณะที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับแคนาดามากที่สุดในรอบ 3 ปี
กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยว่า การส่งออกลดลง 1.3% สู่ระดับ 2.009 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. โดยถูกกระทบจากการส่งออกเครื่องบินและน้ำมันดิบที่ลดลง แต่การส่งออกสินค้าเพื่อผู้บริโภคพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ และการส่งออกยานยนต์ ชิ้นส่วน และเครื่องยนต์ มีมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2557
ส่วนการนำเข้าทรงตัวที่ระดับ 2.575 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. อันเนื่องมาจากการลดลงของการนำเข้าโทรศัพท์มือถือและเครื่องบิน ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะลดยอดขาดดุลการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ เช่นญี่ปุ่น จีน เม็กซิโก และเยอรมนี