รัฐมนตรีจาก 11 ชาติสมาชิกของข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ได้ลงนามในข้อตกลง "Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership (CPTPP) เมื่อวานนี้ ที่เมืองซันติอาโก ประเทศชิลี ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือกันในการผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี ท่ามกลางการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า 11 ชาติสมาชิก TPP มีเป้าหมายที่จะทำให้ข้อตกลง CPTPP หรือที่รู้จักในชื่อ TPP 11 มีผลบังคับใช้ในต้นปี 2562 เพื่อสร้างเขตการค้าที่มีสัดส่วนเกือบ 13% ของ GDP ทั่วโลก และครอบคลุมประชากรราว 500 ล้านคน
กลุ่ม TPP ระบุในข้อตกลงว่า 11 ชาติสมาชิก TPP มีความแน่วแน่ที่จะ "มีส่วนช่วยในการสร้างตลาดที่เปิดกว้าง เพื่อขยายการค้าโลก และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ สำหรับประชาชนที่มีรายได้และภูมิหลังทางเศรษฐกิจทุกรูปแบบ"
นอกจากนี้ กลุ่ม TPP มีความมุ่งมั่นที่จะ "เพิ่มโอกาสในเร่งการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนในภูมิภาค"
ข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วันนับจากประเทศสมาชิกอย่างน้อย 6 ประเทศเสร็จสิ้นกระบวนการรับรองภายในประเทศ โดยคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะแถลงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงดังกล่าว ต่อสภาไดเอทในเดือนนี้
ทั้งนี้ 11 ชาติสมาชิก TPP ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม ขณะที่สหรัฐได้ประกาศถอนตัวในปีที่แล้ว