นายเจฟฟ์ เฟลก สมาชิกวุฒิสภาของพรรครีพับลิกันจากรัฐแอริโซนา เสนอร่างกฎหมายที่จะทำให้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเป็นโมฆะ พร้อมเตือนว่า การกีดกันทางการค้าดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ
นายเจฟฟ์กล่าวในที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐว่า มาตรการภาษีเหล่านี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแบบที่เคยเกิดขึ้นมาเสมอ และจะทำให้เกิดการสูญเสียการจ้างงาน ตลอดจนขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมเสริมด้วยว่า สมาชิกสภาคองเกรสไม่อาจเข้าไปมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการบริหารจัดการภัยพิบัติทางเศรษฐกิจครั้งนี้ได้
นอกจากนี้ยังได้เรียกร้องให้บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสร่วมมือเพื่อใช้อำนาจการกำกับดูแลตามรัฐธรรมนูญ และทำให้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม ที่ขาดความรับผิดชอบเช่นนี้เป็นโมฆะ ขณะเดียวกันก็เตือนว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดการพลิกผันในเรื่องของผลประโยชน์ หากสหรัฐอเมริกาก้าวเข้าสู่สงครามการค้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีของสหรัฐได้ลงนามคำสั่งบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการภายใน 15 วัน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมถึงก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส กลุ่มธุรกิจและประเทศคู่ค้า
อย่างไรก็ตาม นายจอห์น คอร์นีน ประธานวิปเสียงข้างมากในวุฒิสภา เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้น้อยที่สภาคองเกรส ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก จะผ่านกฎหมายเพื่อสกัดกั้นมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม แต่คาดว่า ฝ่ายนิติบัญญัติ ที่สนับสนุนการค้าเสรีจะยังคงเดินหน้าวิ่งเต้นให้คณะทำงานของทรัมป์เพิ่มจำนวนประเทศที่ได้รับการยกเว้นภาษีดังกล่าวแทน