สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า สกุลเงินดิจิทัลที่ถูกแฮกเกอร์โจรกรรมไปในปี 2560 นั้นมีมูลค่าสูงถึง 662.40 ล้านเยน (6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ในปี 2560 สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นได้รับแจ้งเหตุแฮกเกอร์โจรกรรมสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากถึง 149 คดี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลในกระเป๋าเงิน (wallet) ของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นที่เก็บ public และ private key สำหรับใช้ทำธุรกรรม และขโมยเงินออกมา โดยแฮกเกอร์เหล่านี้มักเลือกขโมยสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิทคอนย์ อีเธอเรียม และริพเพิล ก่อนที่จะโอนสกุลเงินเหล่านั้นกระจายไปยังบัญชีอื่นๆ
นอกจากนี้ มาตรการด้านความปลอดภัยที่หละหลวมก็มีส่วนทำให้แฮกเกอร์ทำงานง่ายขึ้น เนื่องจากเพียงแค่มีไอดีและพลาสเวิร์ด แฮกเกอร์ก็สามารถเข้าถึงบัญชีของผู้ใช้งานได้
เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัท Coincheck ผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงิน NEM ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล เปิดเผยว่า แฮกเกอร์ได้โจรกรรม NEM ไปจากระบบเป็นจำนวนเงินสูงถึง 5.8 หมื่นล้านเยน ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยในขณะนี้ ทางสำนักงานตำรวจญี่ปุ่นกำลังอยู่ในระหว่างสืบสวนคดี ซึ่งเชื่อกันว่า แฮกเกอร์ในต่างประเทศสามารถเข้าใช้ระบบอินเทอร์เน็ตของบริษัท หลังจากที่ส่งไวรัสผ่านทางมัลแวร์ในอีเมล์เพื่อขโมยรหัสในการโอนสกุลเงินดิจิทัล