บริษัทเทสลา มอเตอร์ส ได้ออกมายืนยันว่า รถยนต์รุ่นเทสลา โมเดล เอ็กซ์ ที่ประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับแนวกั้นถนนและรถอีก 2 คันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนส่งผลให้ชายผู้ขับขี่วัย 38 ปีเสียชีวิตนั้น วิ่งอยู่ในโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติ
แถลงการณ์ของเทสลาระบุว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะนั้น "รถวิ่งอยู่ในโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยมีการตั้งค่าเว้นระยะขณะอยู่ในระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอยู่ที่ระดับต่ำสุด" โดยบันทึกการขับขี่เปิดเผยว่า ชายวัย 38 ปีผู้นี้ได้เพิกเฉยต่อการแจ้งเตือนให้ผู้ขับจับพวงมาลัย
เทสลา ชี้แจงว่า "ผู้ขับได้รับการแจ้งเตือนทางสายตาหลายครั้งและด้วยเสียงหนึ่งครั้งให้นำมือจับพวงมาลัย โดยตัวระบบไม่พบมือผู้ขับอยู่บนพวงมาลัยเป็นเวลา 6 วินาทีก่อนเกิดเหตุชน"
แถลงการณ์ระบุว่า ผู้ขับมีเวลาประมาณ 5 วินาที และมีระยะมองเห็นแนวกั้นถนนคอนกรีตดังกล่าวพร้อมแนวลดแรงปะทะประมาณ 150 เมตร แต่บันทึกการขับขี่ระบุว่า ผู้ขับไม่ได้ดำเนินการใดๆ
เทสลา เปิดเผยว่า "อุบัติเหตุครั้งนี้รุนแรงมาก เนื่องจากแนวลดแรงปะทะ ซึ่งเป็นตัวกั้นอีกชั้นหนึ่งเพื่อลดแรงกระแทกกับแนวกั้นถนนคอนกรีตนั้น ถูกถอดออกไปหรือไม่ก็ถูกชนมาก่อนหน้านี้แต่ยังไม่มีการหาของใหม่มาแทนที่"
อย่างไรก็ดี เทสลา ไม่ได้ออกมาอธิบายว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์คันดังกล่าวตรวจพบแนวกั้นถนนคอนกรีตนี้หรือไม่ ก่อนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 มี.ค. บนทางหลวงหมายเลข 101 ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน