ทางการจีนได้เรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกการใช้มาตรการปกป้องการค้าที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับขององค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อให้การค้าผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในระดับทวิภาคีกลับมาสู่ภาวะปกติ
กระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) เปิดเผยผ่านแถลงการณ์ออนไลน์ว่า การที่สหรัฐใช้มาตรการกีดกันการนำเข้าจากประเทศบางกลุ่มนั้น เป็นการละเมิดข้อยกเว้นด้านความมั่นคงของ WTO ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนอย่างร้ายแรงต่อหลักการไม่เลือกปฏิบัติในระบบการค้าพหุภาคี
MOC ระบุในแถลงการณ์ว่า "ผลประโยชน์ของจีนถูกบั่นทอนอย่างรุนแรง"
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เสนอมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการตอบโต้หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์
ทางการจีนได้เปิดรับความคิดเห็นจากสาธารณะต่อข้อเสนอดังกล่าวจนถึงวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งปรากฏว่าได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่ง เป็นเหตุให้รัฐบาลจีนมีมติประกาศใช้มาตรการดังกล่าวในวันนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการด้านภาษีศุลกากรแห่งรัฐสภาจีนได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 120 รายการจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงผลไม้และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอีก 8 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู ในอัตรา 25%
ถ้อยแถลงของคณะกรรมการด้านภาษีศุลกากรแห่งรัฐสภาจีนระบุว่า การตัดสินใจออกมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะตอบโต้สหรัฐที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมในอัตรา 10% จากประเทศต่างๆ รวมถึงจีน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยกล่าวหาว่า จีนดำเนินนโยบายการค้าและการลงทุนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา