สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า ตนมีความคาดหวังว่าสหรัฐและจีนจะหาข้อตกลงร่วมกันได้ก่อนที่จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจริง แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างสองประเทศนี้
นายมนูชิน ระบุว่า สหรัฐไม่มีเป้าหมายที่จะก่อให้เกิดสงครามการค้า แต่ "สงครามการค้าก็อาจเกิดขึ้นได้"
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขอให้สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์
ปธน.สหรัฐกล่าวว่า เขาได้ขอให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ พิจารณาว่าการเก็บภาษีนำเข้าอีก 1 แสนดอลลาร์นั้นเหมาะสมหรือไม่ภายใต้มาตรา 301 และหากเหมาะสม ก็ขอให้ระบุรายการสินค้าที่จะเรียกเก็บภาษีดังกล่าว
นายทรัมป์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเขาเป็นเพราะการตอบโต้อย่างไม่เป็นธรรมของจีนต่อการที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทรัมป์ทำให้สถานการณ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ดูเหมือนเริ่มจะคลี่คลายลงแล้ว กลับมาทวีความตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมากล่าวเมื่อวันพุธว่า ขณะนี้สหรัฐยังไม่มีการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน และจีนก็ยังไม่ได้บังคับใช้มาตรการดังกล่าวกับสหรัฐเช่นกัน โดยทั้งสองประเทศมีเวลาอย่างน้อย 2 เดือนก่อนที่จะตัดสินใจบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า