สถานีวิทยุแห่งชาติของสหรัฐ (NPR) รายงานว่า ท่ามกลางความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ออสเตรเลียอาจจะเป็นฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์ เนื่องจากออสเตรเลียสามารถเพิ่มกำลังการผลิตและใช้ข้อได้เปรียบด้านราคาเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดจากบริษัทสหรัฐในตลาดจีน
รายงานของ NPR ระบุว่า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และออสเตรเลียสามารถผลิตสินค้าหลายชนิดที่เป็นชนิดเดียวกันกับที่จีนนำเข้าจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงสินค้าที่ปรากฎอยู่ในรายการสินค้า 128 ชนิดของสหรัฐที่จีนเตรียมประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า
นอกจากนี้ รายงาน NPR ยังระบุว่า ออสเตรเลียเป็นคู่แข่งรายใหญ่ของสหรัฐในด้านการส่งออกผลไม้และถั่วไปยังจีน โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียระบุว่า ออสเตรเลียได้ส่งออกผลไม้ในประเทศกว่า 40% ไปยังจีน และอัตราการส่งออกถั่วจากออสเตรเลียไปยังจีนปรับตัวขึ้นราว 10 เท่าภายในระยะเวลา 5 ปี
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการด้านภาษีศุลกากรแห่งรัฐสภาจีนได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า 120 รายการจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงผลไม้และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอีก 8 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู ในอัตรา 25%
ถ้อยแถลงของคณะกรรมการด้านภาษีศุลกากรแห่งรัฐสภาจีนระบุว่า การตัดสินใจออกมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะตอบโต้สหรัฐที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมในอัตรา 10% จากประเทศต่างๆ รวมถึงจีน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกล่าวหาว่า จีนดำเนินนโยบายการค้าและการลงทุนที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา