นายกาเบรียลา ซิลเลอร์ นักวิเคราะห์การเงินชาวเม็กซิโกได้กล่าวเตือนว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ทำเนียบขาวได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมีเนียม เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ หลังจากนั้น รัฐบาลสหรัฐได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเรียกเก็บภาษีในอัตรา 25% ทางด้านจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีในอัตราเท่ากัน โดยพุ่งเป้าไปยังสินค้าของสหรัฐ อาทิ ถั่วเหลือง ยานยนต์ เครื่องบิน และเคมีภัณฑ์
ส่วนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขอให้สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ นายอาร์ทูโร เอิร์ทต้า อาจารย์วิชาการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเนชันนัล ออโตโนมัสของเม็กซิโก กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ชี้ให้เห็นว่า นโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของปธน.ทรัมป์เปิดฉากขึ้นด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าครั้งล่าสุด
นายเอิร์ทต้ากล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า ปธน.ทรัมป์เอาจริงเอาจังกับนโยบายของเขา ซึ่งนั่นจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดสงครามการค้า รวมถึงสงครามสกุลเงิน
"สหรัฐต้องการใช้สกุลเงินดอลลาร์เป็นเครื่องมือในการแข่งขัน เพราะหากดอลลาร์แข็งค่า มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐก็จะไม่เกิดผลตามที่คาดหวังไว้" นายเอิร์ทต้ากล่าว