ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์ และยูไนเต็ดเฮลธ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากการโจมตีซีเรียของสหรัฐและชาติพันธมิตรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างสหรัฐและรัสเซีย เนื่องจากเป็นการโจมตีในขอบเขตจำกัดที่มีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานเมื่อวานนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวของภาคสาธารณูปโภค ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 78.0% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.319 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.262 ล้านยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2.5% สู่ระดับ 1.354 ล้านยูนิต
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานเวิลด์ อิโคโนมิก เอาท์ลุค (WEO) หรือ"แนวโน้มเศรษฐกิจโลก" เมื่อวานนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.9% ในปีนี้ และปีหน้า โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากการประเมินในเดือนม.ค.
IMF ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.9% โดยเพิ่มขึ้น 0.2% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ในเดือนม.ค. และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.7% ในปีหน้า โดยเพิ่มขึ้น 0.2% จากตัวเลขคาดการณ์เดิม ขณะที่ได้ผลบวกจากมาตรการปฏิรูปภาษี ซึ่งมีการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 21% จาก 35%
อย่างไรก็ดี IMF เตือนว่า การทำสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ราคาบ้านในเมืองขนาดใหญ่ของจีนยังคงทรงตัวในเดือนมี.ค. หลังจากที่รัฐบาลได้ใช้มาตรการคุมเข้มในการซื้อบ้าน
ทั้งนี้ ในจำนวนเมืองขนาดใหญ่ 15 แห่งที่ได้รับการสำรวจจากรัฐบาลในเดือนมี.ค.นั้น มีเมือง 7 แห่งที่ราคาบ้านปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ราคาบ้านในเมืองใหญ่ 2 แห่ง ทรงตัวเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ส่วนเมืองอื่นๆที่เหลือนั้น ราคาบ้านมีการขยายตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายเดือน สำนักข่าวซินหัวรายงาน
-- ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เมื่อวานนี้ โดยปรับลดลง 1.00% จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ระดับ 15% หรือ 17%
ธนาคารกลางระบุว่า การปรับลด RRR ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นธุรกิจรายย่อย รักษาเสถียรภาพทางการเงิน และเพิ่มสภาพคล่องในระบบ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 เม.ย.
-- คณะกรรมการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า จีนเตรียมยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์
รายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2561 สำหรับการถือหุ้นในบริษัทผู้ผลิตรถอเนกประสงค์และรถพลังงานทางเลือก โดยจะยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าถือครองหุ้นบริษัทผู้ผลิตรถเพื่อการพาณิชย์และรถโดยสารในปี 2563 และ 2565 ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน
-- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ด้านนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ได้ออกมาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน โดยกล่าวว่า เฟดจำเป็นจะต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐร้อนแรงเกินไป เนื่องจากคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ระดับดังกล่าว หรือเหนือกว่าเป็นเวลาอีก 2-3 ปี
-- การประชุมผู้สุดยอดผู้นำระหว่างนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยผู้นำทั้งสองได้หารือกันในประเด็นเกาหลีเหนือและการค้าเป็นประเด็นหลัก
ปธน.ทรัมป์กล่าวในช่วงเริ่มต้นการประชุมว่า "ญี่ปุ่นและสหรัฐเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และเรามีความคิดเห็นสอดคล้องกันในประเด็นเกาหลีเหนือ" ขณะที่นายอาเบะกล่าวว่า "ผมต้องการที่จะแบ่งปันมุมมองกับปธน.ทรัมป์ เกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ"
-- สื่อต่างประเทศหลายสำนัก ซึ่งรวมถึงรอยเตอร์และวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ได้เดินทางไปยังกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ เพื่อประชุมลับกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
รายงานระบุว่า การประชุมระหว่างนายปอมเปโอและนายคิม เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพบปะกันโดยตรงระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายคิม จอง อึน ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ค. หรือต้นเดือนมิ.ย.
-- นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า ตนจะพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินในไม่ช้านี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย
"เรามีประเด็นมากมายที่ต้องคุยกัน นับตั้งแต่เรื่องยูเครน, ก๊าซ ไปจนถึงเรื่องใหญ่คือซีเรีย ซึ่งทำให้เราต้องเจรจากันในอนาคตอันใกล้" นางแมร์เคิลกล่าว
นอกจากนี้ นางแมร์เคิลยังได้สนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.ปูตินในเช้าวันนี้ โดยเน้นหนักในประเด็นความขัดแย้งในซีเรีย เพื่อหาแนวทางแก้ไขทางการเมือง และยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานหลายปี
-- นายเควิน จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า สตาร์บัคส์จะปิดร้านทั้งหมดในสหรัฐในช่วงบ่ายของวันที่ 29 พ.ค.เพื่ออบรมพนักงานเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมในการเหยียดสีผิว
การอบรมพนักงานในครั้งนี้มีขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่พนักงานของสตาร์บัคส์ในเมืองฟิลาเดลเฟียได้แจ้งตำรวจให้มาจับกุมตัวชายผิวสี 2 คนที่มานั่งในร้านแต่ไม่ได้สั่งเครื่องดื่ม ขณะที่พวกเขากำลังรอพบเพื่อนที่จะเข้ามาในร้าน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างกระแสความไม่พอใจต่อสตาร์บัคส์ จนทำให้นายจอห์นสันต้องออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในปีงบประมาณ 2560 ทั้งสิ้น 2.46 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่แข็งแกร่งได้ช่วยหนุนยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยอดส่งออกในปีงบ 2560 พุ่งขึ้น 10.8% แตะระดับ 79.22 ล้านล้านเยน ซึ่งปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ทะยานขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 13.6% สู่ระดับ 76.77 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
ส่วนในเดือนมี.ค.เพียงเดือนเดียวนั้น ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าทั้งสิ้น 7.973 แสนล้านเยน โดยยอดส่งออกในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนยอดนำเข้าลดลง 0.6%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ตลาดจับตาในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.ของอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค.ของเกาหลีใต้ อัตราว่างงานเดือนมี.ค.ของออสเตรเลีย ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. ของอังกฤษ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ