นายชางหยง รี ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ความตึงเครียดด้านการค้าที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
นายชางหยงกล่าวว่า การที่หลายประเทศกำลังดำเนินนโยบายเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศตนเอง ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้านั้น จะส่งผลกระทบต่อเอเชียซึ่งมีระบบเศรษฐกิจแบบเปิด พร้อมระบุว่า เอเชียยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก โดยมีสัดส่วนกว่า 60% ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก
ทั้งนี้ นายชางหยงคาดว่า ในระยะกลางนี้ ภูมิภาคเอเชียจะเผชิญกับความเสี่ยงขาลง โดยความเสี่ยงเหล่านี้รวมถึงการที่ประเทศทั่วโลกเริ่มดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน, นโยบายปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศของตนเอง และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่สูงขึ้น
"ความตึงเครียดด้านการค้าจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขผ่านทางระบบพหุภาคี" นายชางหยงกล่าว พร้อมระบุว่า "ไม่มีใครเป็นผู้ชนะในสงครามการค้า"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า IMF ได้ออกรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะขยายตัว 5.6% ในปี 2561 และ 2562 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาที่ระดับ 5.5%