สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประเทศสมาชิก WTO ทั้งสิ้น 7 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย อินเดีย เวเนซูเอลา ตุรกี นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ มีความเห็นตรงกันกับจีนซึ่งเป็นผู้หยิบยกประเด็นดังกล่าว ในการแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐได้ประกาศเก็บภาษีตามมาตรา 232
ทางการจีนได้ออกมาเตือนว่า การดำเนินการตามมาตรา 232 นั้น สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเสถียรภาพระบบการค้าระดับพหุภาคี อีกทั้งยังทำให้ห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศต้องผิดเพี้ยนไปจากเดิม และจะส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงตามมาในภายหลัง
จีนเปิดเผยว่า การที่สหรัฐละเว้นการเก็บภาษีจากบางประเทศ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเออร์รายใหญ่ๆ ของสหรัฐนั้น บ่งบอกชัดเจนว่าสหรัฐได้ละเมิดหลักการปฏิบัติต่อสินค้าจากประเทศสมาชิกอย่างเท่าเทียมกัน (Most favoured nation หรือ MFN) ของ WTO
ด้านรัสเซียเปิดเผยว่า กระบวนการทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังการเรียกเก็บภาษีนำเข้าดังกล่าวขาดความโปร่งใส ทั้งยังเป็นการตัดสิทธิ์ของกลุ่มผู้ผลิตต่างชาติในการเสนอหลักฐานประกอบการชี้แจง
ผู้แทนจากรัสเซีย มองว่า การกระทำของสหรัฐมีแต่จะบั่นทอนเสถียรภาพการค้า เปิดช่องทางสู่การยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้า และก่อให้เกิดสถานการณ์ที่มีแต่เสียกับเสียแก่สมาชิกทุกประเทศ
ขณะเดียวกัน ทางตุรกีได้ชี้แนะว่า การประชุม Global Forum on Steel Excess Capacity ของกลุ่ม G20 จะเป็นเวทีในการหารือปัญหาเกี่ยวกับกำลังการผลิตส่วนเกิน พร้อมเสริมว่า ปัญหาดังกล่าวควรแก้ไขด้วยความร่วมมือร่วมใจ ไม่ใช่การกระทำแต่ฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ดี ทางการสหรัฐยืนยันว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้ามีขึ้นด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่การปกป้องทางการค้า ดังนั้น สมาชิกชาติอื่นๆ ไม่มีเหตุสมควรในการเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหรัฐในเรื่องดังกล่าว ตามกรอบความตกลงว่าด้วยมาตรการปกป้อง