เอชเอสบีซี ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของยุโรปเมื่อพิจารณาในแง่สินทรัพย์ เปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรก่อนหักภาษีของธนาคารปรับตัวลดลง 4% ในไตรมาสแรกปีนี้ สู่ระดับ 4.755 พันล้านดอลลาร์ จากไตรมาสแรกของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 4.961 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้กำไรก่อนหักภาษีลดลงนั้น มาจากต้นทุนการดำเนินงานปรับตัวสูงขึ้น 13% สู่ระดับ 9.4 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรก
ส่วนรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.371 หมื่นล้านดอลลาร์ จากไตรมาสแรกปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.2993 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เอชเอสบีซียังได้ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนเป็นวงเงินสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดการณ์การดำเนินการดังกล่าวจะเกิดขึ้นในปีนี้