จิง อุลริช กรรมการผู้จัดการและรองประธานเจพีมอร์แกน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า การที่จีนใช้มาตรการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้ช่วยดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้หันมาเพิ่มการลงทุนและการจัดตั้งธุรกิจในตลาดจีน ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
"ตลาดจีนมีการขยายตัวมากขึ้นทุกๆวัน ขณะที่นักลงทุนจากทั่วโลกกำลังเพิ่มการลงทุนในประเทศจีน เพื่อเตรียมรับโอกาสต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต " อุลริชกล่าว พร้อมระบุถึงนโยบายใหม่ที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจต่างชาติ เช่น การยกเลิกข้อจำกัดในการถือครองหลักทรัพย์"
การแสดงความเห็นของอุลริชมีขึ้นนอกรอบการประชุมของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งจัดขึ้นที่จีนตั้งแต่เมื่อวานนี้และจะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุ่งนี้ โดยมีนักลงทุนและผู้บริหารบริษัทเอกชนกว่า 2,220 คนจาก 50 ประเทศและภูมิภาค เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนได้ประกาศใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการเข้าถึงตลาดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 ในโอกาสครบรอบ 40 ปีแห่งการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ โดยจีนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ และลดการควบคุมภาคการผลิตและภาคการเงิน
นอกจากนี้ MSCI ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลก จะนำหุ้น A-share ของจีนเข้าร่วมในการคำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index และดัชนี MSCI ACWI Index ในวันที่ 1 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งอุลริชคาดว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินเข้ามาลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นจีนมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในหุ้น A-share เป็นจำนวนมากถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.7% ในปี 2561 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่ระดับ 6.5%