-- นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีของอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านจะยังคงยึดมั่นตามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านกับผู้ร่วมลงนามในข้อตกลงซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) ต่อไป ถึงแม้สหรัฐอเมริกาจะประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวก็ตาม
-- นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เลือกถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA)
-- นายเอ็มมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ รู้สึกเสียใจที่สหรัฐได้ประกาศที่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) ที่ได้ลงนามไว้เมื่อปี 2558
-- รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาแสดงความผิดหวัง หลังจากที่สหรัฐตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
-- นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้แสดงความพอใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
-- ซาอุดิอาระเบียออกมาสนับสนุนการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เลือกถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA)
-- กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า จีนได้รับหนังสือเชิญจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ ที่เชิญนาย หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน พร้อมคณะ เดินทางเยือนสหรัฐ เพื่อเจรจาการค้าและเศรษฐกิจกันต่อ ซึ่งจีนได้ตอบรับคำเชิญเรียบร้อยแล้ว
-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอยู่ในระหว่างการเดินทางไปยังเกาหลีเหนือ เพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และผู้นำสูงสุดคิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ
-- ทำเนียบขาวระบุ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เห็นพ้องเรื่องการคงมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไว้จนกว่าเกาหลีเหนือจะ "ยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธอย่างถาวร"
-- ชาวมาเลเซียได้เดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงแล้วในช่วงเช้าวันนี้ โดยพรรคแนวร่วม รัฐบาลแห่งชาติ (บีเอ็น) ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักหน่วงจากพรรคร่วมฝ่ายค้านปากาตัน ฮาราปัน
-- กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รายงานว่า ค่าจ้างที่แท้จริงของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค. ได้ปรับตัวขึ้น 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี นับเป็นสถิติที่ปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และสะท้อนให้เห็นว่าเงินเดือนพื้นฐานอยู่ในช่วงขาขึ้น
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในรายงานวันนี้ว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจในเอเชียค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เอเชียยังคงมีความเสี่ยงจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงิน รวมทั้งการที่ตลาดเข้าสู่ระยะพักฐาน และนโยบายกีดกันทางการค้า
IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในเอเชียจะขยายตัวราว 5.6% ในปีนี้และปีหน้า หรือเพิ่มขึ้น 0.1% จากระดับคาดการณ์ในเดือนต.ค.