บริษัทวิจัย บีเอ็มไอ รีเสิร์ช ได้ปรับเพิ่มประมาณยอดขาดดุลการคลังของรัฐบาลมาเลเซียในปี 2561 เป็น 4% ต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.8% เพื่อสะท้อนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลประกาศลดภาษีสินค้าและบริการ (GST)
นอกจากนี้ บีเอ็มไอ รีเสิร์ช ยังระบุในรายงานถูกเผยแพร่ออกมาในวันนี้ว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขาดดุลโดยเฉลี่ยของของมาเลเซียในช่วงปี 2561-2570 จากเดิมที่ 2.8% เป็น 3.1% ต่อตัวเลข GDP
บีเอ็มไอกล่าวว่า "นี่เป็นการสะท้อนถึงผลกระทบเชิงลบจะที่เกิดขึ้นกับรายได้ของรัฐบาลจากการตัดสินใจปรับลภาษี GST ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.นี้"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซียได้ออกมาประกาศหลังจากได้รับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์จากการเลือกตั้งเพียงไม่นานว่า จะเดินหน้าปฏิรูปการคลังของประเทศ ตามที่ให้สัญญาไว้ก่อนการเลือกตั้ง โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงการคลังมาเลเซียแถลงว่า รัฐบาลจะปรับลดอัตราภาษี GST จากระดับ 6% สู่ระดับ 0% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามคำสัญญาขณะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
บีเอ็มไอย้ำว่า การปรับเพิ่มคาดการณ์การขาดดุลการคลังของมาเลเซียในครั้งนี้ได้พิจารณาถึงแนวโน้มของราคาน้ำมันในอนาคตด้วยแล้ว โดยบีเอ็มไอเชื่อว่า มาเลเซียจะมีรายได้จากการขายน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเข้ามาชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียรายได้อันเนื่องมาจากการปรับลดภาษี GST