นายลี จู ยอล ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบที่ธนาคารกลางทั่วโลกพากันยุติมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง (taper tantrum ) ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนนี้
นายลีได้แสดงความเห็นดังกล่าวในพิธีเปิดการประชุมระหว่างประเทศซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโซลในวันนี้ว่า ปรากฎการณ์ taper tantrum ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2559 อาจจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใดก็ได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปรากฏการณ์ taper tantrum เคยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง หลังจากที่เฟดเริ่มปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดการเงินทั่วโลกลดลงไปด้วย
การแสดงความเห็นของนายลีมีขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ในขณะนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ ก็จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอยู่ในระดับสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของเกาหลีใต้ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.50%
ทั้งนี้ นายลีกล่าวว่า ปรากฏการณ์ taper tantrum ในปี 2556 นั้น ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ และทำให้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ พร้อมกับเตือนว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นอีกเมื่อใดก็ได้