ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2561 จะอยู่ที่ระดับ 1.0% ซึ่งลดลง 0.3% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นสูงกว่าคาดการณ์
ส่วนในปี 2562 ธนาคารโลกคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 0.8% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค. ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 0.5% ในปี 2563 อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รวมทั้งการจ้างงานที่ขยายตัวช้าลง และมาตรการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคที่มีกำหนดบังคับใช้ในช่วงปลายปี 2561
ธนาคารโลกได้เปิดเผยในรายงาน "Global Economic Prospects" เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ค่าจ้างและการคาดการณ์เงินเฟ้อยังคงทรงตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัว 3.1% ในปี 2561 ก่อนที่จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3% ในปี 2562 โดยตัวเลขดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
รายงานของธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงขาลง โดยระบุว่า "มีความเป็นไปได้ที่ตลาดการเงินจะผันผวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเผชิญกับภาวะอ่อนแอมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายในลักษณะกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งความไม่แน่นอนด้านโยบาย และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน"
ในแง่ของนโยบายการค้านั้น ธนาคารโลกระบุว่า ผลการเจรจาการค้ายังคงไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะนำไปสู่การบังคับใช้มาตรการการค้าที่เข้มงวด เนื่องจากสหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ ซึ่งส่งผลให้ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ต่างก็พากันออกมาตรการเพื่อตอบโต้