วุฒิสมาชิกสหรัฐจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้เสนอร่างกฎหมายที่จะบีบให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องขออนุญาตจากสภาคองเกรสก่อนที่จะบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ
ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งเสนอโดยนายบ็อบ คอร์เกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งวุฒิสภา และวุฒิสมาชิกอีก 9 คนนั้น จะกำหนดให้ประธานาธิบดีต้องยื่นขออนุมัติจากสภาคองเกรสก่อนที่จะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า เพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ ภายใต้กฎหมาย "Trade Expansion Act" มาตรา 232 ที่บัญญัติขึ้นตั้งแต่ปี 2505
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้นำกฎหมายอันล้าหลังฉบับนี้มาใช้ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านทั้งจากภาคธุรกิจภายในประเทศและบรรดาประเทศคู่ค้าของสหรัฐ
"ในขณะที่เราต่างก็เล็งเห็นถึงความจำเป็นของการสร้างความเชื่อมั่นว่า ระบบการค้าระหว่างประเทศจะต้องมีความยุติธรรมสำหรับคนงาน บริษัท และผู้บริโภคของอเมริกานั้น คณะทำงานของปธน.ทรัมป์กลับนำกฎหมายมาตรา 232 ไปใช้ในทางที่ผิด ด้วยการทำเสมือนว่าประธานาธิบดีเป็นตัวแทนของสภาคองเกรส" นายคอร์เกอร์กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวานนี้
"การกล่าวอ้างถึงความมั่นคงของชาติเพื่อสร้างความชอบธรรมในสิ่งที่จะนำมาซึ่งคำถามด้านเศรษฐกิจนั้น ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อทุกคนที่พยายามจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้เท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรของเราย่ำแย่ลง และอาจทำให้ประเทศคู่แข่งของเราหันมาใช้มาตรการตอบโต้ด้วยเช่นกัน" นายคอร์เกอรกล่าว