กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ โดยความเคลื่อนของทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%
"ผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขึ้นภาษีรถยนต์ครั้งนี้ และทางเลือกของผู้บริโภคจะถูกจำกัด หากมีการบังคับใช้มาตราการขึ้นภาษีดังกล่าว" นายอากิโกะ โตโยดะ ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่น และประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป กล่าวในแถลงการณ์ "ยิ่งไปกว่านั้น แผนธุรกิจของอุตสหากรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงการเจรจาการส่งออกรถยนต์ อาจได้รับผลกระทบ และจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐเอง" นายโตโยดะ กล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นมีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแผนการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวของทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25% ผู้สังเกตุการณ์มองว่า สหรัฐเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มตลาดรถยนต์ญี่ปุ่น หากปธน.ทรัมป์ตัดสินใจออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ กลุ่มผู้ผลิตของญี่ปุ่นก็อาจย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น
ทางด้านตัวแทนจากอุตสาหกรรมยานยนต์บางส่วนยังกล่าวด้วยว่า ธุรกิจยานยนต์ของญี่ปุ่นมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐ พร้อมระบุว่า รถยนต์นำเข้าของญี่ปุ่นก็ไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐด้วยเช่นกัน