สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1 ในวันนี้ โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้น และเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 9 ไตรมาส
-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาในวันนี้ และเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
-- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 11.63 ล้านล้านหยวน หรือ 1.82 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.686 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำสถิติเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 46 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่ง
-- สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือและสิงคโปร์ได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐ
-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะเดินทางจากแคนาดาไปยังสิงคโปร์โดยตรง เพื่อร่วมประชุมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ
-- กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ โดยความเคลื่อนของทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%
-- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า การที่ IMF ทำข้อตกลงกับอาร์เจนตินาในเรื่องการจัดหาวงเงินสินเชื่อมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น จะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นของตลาด
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 2.2% ซึ่งส่งผลให้เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.ทั้งสิ้น 1.94 หมื่นล้านยูโร น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านยูโร