นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้แสดงความไม่พอใจต่อถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ที่ได้วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐหลังสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต่อชาติพันธมิตรอย่างแคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป (EU) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการประชุม G7 ว่า ตนรู้สึกว่าการที่รัฐบาลสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดานั้นเป็นการเหยียดหยาม และตนจะไม่ยอมถูกรังแก ขณะที่ปธน.ทรัมป์ ตอบโต้ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ถ้อยแถลงของนายทรูโดนั้น "หลอกลวงและเหลาะแหละ"
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ยังได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ด้วย ซึ่งหากมีการบังคับใช้จริงแล้ว ก็จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์แคนาดา เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐ
ประเด็นการเก็บภาษีนำเข้ายานยนต์ได้กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง หลังเมื่อเดือนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สั่งการให้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแผนการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%
ทั้งนี้ คาดว่าการตรวจสอบดังกล่าวน่าจะเป็นการดำเนินการตามมาตรา 232 ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่สหรัฐใช้เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อไม่นานมานี้
ทางด้านนายรอสส์กล่าวว่า "มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานั้น การนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ"