สำนักข่าว NRK ของนอร์เวย์ รายงานว่า นางเออร์นา โซลเบิร์ก นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาได้สูญเสียอิทธิพลบนเวทีโลก หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ตัดสินใจไม่ให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7 ประเทศ หรือ G7
นางโซลเบิร์ก ซึ่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ที่ประเทศแคนาดา กล่าวว่า "สหรัฐอเมริกาได้สูญเสียอิทธิพลทางการเมืองในพื้นที่ส่วนอื่นๆของโลก ทั้งยังเสียบทบาทการเป็นจุดศูนย์กลางในการค้นหากลไกร่วมและกำหนดวาระระดับโลก"
อย่างไรก็ดี นางโซลเบิร์กมองว่า สหรัฐอเมริกาจะยังคงเป็นประเทศมหาอำนาจที่ทั่วโลกยังต้องพึ่งพา
นางโซลเบิร์ก กล่าวว่า "สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่และแข็งแกร่ง เป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แสนยานุภาพทางทหารยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นชาติที่มีนวัตกรรมมากเป็นอันดับต้นๆของโลก"
นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ เปิดเผยว่า เทคโนโลยี โซลูชั่น และประชากรชาวอเมริกันที่มีอยู่อย่างมหาศาล จะทำให้สหรัฐอเมริกา "เป็นชาติที่แข็งแกร่งในทุกกระบวนการระดับนานาชาติ"
นางโซลเบิร์ก กล่าวว่า "อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐในกรุงวอชิงตันได้ทำให้ประเทศชาติต้องหลุดเส้นทางไปสักเล็กน้อย"
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สั่งการไม่ให้คณะผู้แทนสหรัฐให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมผู้นำกลุ่ม G7
ปธน.ทรัมป์ ระบุผ่านทวิตเตอร์ขณะอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไม่กี่ชั่วโมงหลังออกจากการประชุม G7 ว่า "เมื่อดูจากข้อความอันเป็นเท็จของนายจัสติน และข้อเท็จจริงที่ว่าแคนาดามีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าอย่างมหาศาลต่อเกษตรกร แรงงาน และบริษัทสหรัฐ ผมได้สั่งการไม่ให้คณะผู้แทนสหรัฐให้การรับรองแถลงการณ์ร่วม ขณะที่เรากำลังประเมินช่องทางเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่กำลังไหลทะลักเข้าตลาดสหรัฐ"