World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 21 มิถุนายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 21, 2018 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กบางส่วนจากญี่ปุ่น และอีก 4 ประเทศ โดยการยกเว้นภาษีนำเข้า 25% นั้น มีผลบังคับใช้กับบริษัทในสหรัฐ 7 แห่งที่นำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กจากญี่ปุ่น สวีเดน เบลเยียม เยอรมนี และจีน

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐได้ตัดสินใจยกเว้นการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กบางส่วนจากประเทศเหล่านี้ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ

-- ผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศต่างๆได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ประเด็นการค้าเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง โดยขณะนี้เริ่มมีบริษัทเอกชนตัดสินใจเลื่อนการลงทุนและการจ้างงานบ้างแล้ว

ด้านนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่ววว่า ความขัดแย้งทางการค้าและนโยบายคุ้มครองการค้าไม่เคยให้ผลลัพธ์ที่ดี ขณะที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดการณ์ว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะส่งผลกระทบทางอ้อมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออก เนื่องจากทำหน้าที่รองรับอุตสาหกรรมจีนอีกทอดหนึ่ง โดยผู้ว่าการ BOJ คาดหวังว่า การค้าระหว่างทั้งสองประเทศนี้จะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

-- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะยังไม่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ทรงตัวที่ระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

-- นายวูดดี้ จอห์นสัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอังกฤษ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในระหว่างการเดินทางเยือนอังกฤษในวันที่ 13 ก.ค.

"การเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะพระองค์ทรงเป็นองค์พระประมุขของอังกฤษ" นายจอห์นสันกล่าว

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เชิญปธน.ทรัมป์ให้เดินทางเยือนอังกฤษในระหว่างที่นางเมย์พบกับปธน.ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ, อัตราว่างงานที่ระดับต่ำ และเงินเฟ้อที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด เป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

นายพาวเวลระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ลดความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายซึ่งมีการใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์

นายพาวเวลกล่าวว่า ถึงแม้ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงิน แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปถือเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และได้รับการสนับสนุนจากกรรมการเฟดส่วนใหญ่

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาเตรียมลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อให้ครอบครัวของผู้อพยพเข้าสหรัฐโดยผิดกฎหมายสามารถอยู่ด้วยกันระหว่างที่ถูกกักตัวบริเวณชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก

"เราจะทำให้ครอบครัวของคนเหล่านี้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ต้องทำให้ชายแดนของเราเข้มแข็งด้วย มิฉะนั้นเราจะเต็มไปด้วยคดี และผู้ที่ไม่ควรเข้ามาในประเทศของเรา" ปธน.ทรัมป์กล่าว

ก่อนหน้านี้ เด็กราว 2,000 คนได้ถูกแยกจากครอบครัวของพวกเขาภายใต้นโยบายใหม่ของปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับการควบคุมผู้อพยพ ซึ่งกำหนดให้ผู้ใหญ่ทุกคนจะต้องถูกกักตัวที่ชายแดนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

-- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์นี้ มาตรการของ EU ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของ EU ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ EU จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่า 2.8 พันล้านยูโร (3.24 พันล้านดอลลาร์) โดยสินค้าดังกล่าวรวมถึงสินค้าเกษตร, เหล็ก และอลูมิเนียมจากสหรัฐ ส่วนสินค้าสหรัฐนอกเหนือจากนี้วงเงิน 3.6 พันล้านยูโรจะถูกเรียกเก็บภาษีหลังจากนี้

-- อิหร่านส่งสัญญาณว่าจะยอมประนีประนอมให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มกำลังการผลิตเล็กน้อยในการประชุมสัปดาห์นี้

ท่าทีของอิหร่านดังกล่าว ถือว่าแตกต่างจากเมื่อวานนี้ซึ่งอิหร่านระบุว่าไม่มีแนวโน้มที่โอเปกจะบรรลุข้อตกลงในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมนโยบายการผลิตน้ำมันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันศุกร์นี้ ก่อนที่กลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย จะเข้าร่วมการประชุมในวันเสาร์

-- นางคัง คยอง ฮวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงโซลว่า มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่มีอยู่ทั้งหมดในปัจจุบันจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าเกาหลีเหนือจะแสดงให้เห็นการกระทำที่เป็นรูปธรรมเพื่อนำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์

นางคังกล่าวว่า "หน้าที่ของเรายังมีอยู่มาก จนกว่าเราจะได้เห็นการกระทำที่เป็นรูปธรรมซึ่งจะนำไปสู่การล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ ส่วนมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินั้นก็ยังคงต้องมีอยู่และถูกนำไปปฏิบัติอย่างสัตย์ซื่อ"

-- นายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในตลาด เกิดจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา แต่เขากลับเรียกร้องให้กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แก้ไขปัญหาด้วยการผลิตน้ำมันมากขึ้น

"ประธานาธิบดีทรัมป์คิดว่าเขาสามารถสั่งโอเปกให้ทำบางสิ่งบางอย่างได้ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรม โอเปกไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงพลังงานของสหรัฐ" นายซานกาเนห์กล่าว

"น้ำมันไม่ใช่อาวุธ และไม่ใช่เครื่องมือทางการเมืองที่จะใช้โจมตีประเทศใดประเทศหนึ่ง, ผู้ผลิต หรือผู้บริโภค" เขากล่าว

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.ของอังกฤษ ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย.,

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค., ฝรั่งเศสจะเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ขณะที่มาร์กิตจะเปิดเผยผลสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ของฝรั่งเศส เยอรมนี ยูโรโซน และสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ