นายฮากัน ซามูเอลส์สัน ประธานและซีอีโอของวอลโว่ คาร์ บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ได้แสดงความวิตกกังวลต่อมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐ ขณะเข้าร่วมพิธีเปิดโรงงานแห่งแรกในทวีปอเมริกาเหนือของบริษัทในวันนี้
นายซามูเอลส์สันเปิดเผยว่า โรงงานแห่งใหม่ของวอลโว่สามารถผลิตรถยนต์ได้ 150,000 คันต่อปี และมีศักยภาพในการจ้างงานถึง 4,000 ตำแหน่ง
นายซามูเอลส์กล่าวว่า วัตถุดิบประมาณครึ่งหนึ่งที่ต้องนำมาใช้ในโรงงานนี้ มาจากซัพพลายเออร์จากต่างประเทศ และครึ่งหนึ่งของรถยนต์ที่ผลิตได้ก็จะต้องถูกส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ดังนั้นสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่เป็นธรรมและเปิดกว้างจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จของโรงงานเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ นายซามูเอลส์กล่าวว่า หากรัฐบาลสหรัฐเดินหน้าบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีจากประเทศต่างๆ จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นและผลกำไรลดลง จนในที่สุดโรงงานก็ต้องจำกัดจำนวนการจ้างงานลง พร้อมเสริมว่า การขึ้นภาษีของรัฐบาลจะทำให้ตำแหน่งงานถึง 2000 ตำแหน่งตกอยู่ในความเสี่ยง
นอกจากนี้ ซีอีโอวอลโว่ยังกล่าวต่อไปอีกว่า วอลโว่ได้บอกเล่าความวิตกกังวลของบริษัทให้กับนักกฎหมายบางคนของสหรัฐได้ฟังแล้ว และหวังว่าทุกฝ่ายจะสามารถแก้ไขความแตกต่างนี้ได้จากการเจรจาร่วมกัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วอลโว่ได้เริ่มสร้างโรงงานในสหรัฐมาตั้งแต่ปี 2558 และได้ทุ่มเงินลงทุนไปกับโรงงานแห่งนี้ถึง 1.1 หันล้านดอลลาร์สหรัฐ