ธนาคารกลางบราซิลได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.6% จากเดิมที่ 2.6% เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในช่วงต้นปี ซึ่งการปรับลดคาดการณ์ของแบงก์ชาติเป็นไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลบราซิลและตลาดการเงินในประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลบราซิลได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลงจากระดับ 2.97% สู่ระดับ 2.5% ขณะที่นักวิเคราะห์ปรับลดการคาดการณ์ลงเป็นสัปดาห์ที่เจ็ดติดต่อกันเหลือเพียง 1.55% ซึ่งลดลงเกือบครึ่งหนึ่งจากที่ประมาณการไว้ที่ 3% เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
การปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP นี้เกิดขึ้นพร้อมกับการปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งธนาคารกลางบราซิลได้ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการผละงานประท้วงของคนขับรถบรรทุกทั่วประเทศในช่วงปลายเดือนพ.ค. จนเป็นเหตุให้เกิดการขาดแคลนอาหารไปทั่วประเทศ โดยแบงก์ชาติบราซิลได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้จาก 3.8% เป็น 4.2% แต่ขณะเดียวกันได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อของปี 2562 จาก 4.1% สู่ระดับ 3.7%
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากมูลนิธิเกตูลิโอ วาร์กาส (FGV) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียงของบราซิล ได้เผยแพร่รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิ.ย. ที่ลดลง 4.8% จากเดือนพ.ค. เนื่องจากมุมมองที่เป็นลบเกี่ยวกับตลาดแรงงาน และความไม่สงบอันเนื่องมาจากเหตุประท้วงในเดือนพ.ค.