นักลงทุนในตลาดการเงินต่างจับตารัฐบาลจีนและสหรัฐซึ่งเตรียมบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้ หลังจากสำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้ประกาศรายการสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ USTR ระบุว่า สินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จะถูกเรียกเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะที่สินค้าล็อตที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ทางด้านรัฐบาลจีนก็ได้เปิดเผยรายการสินค้าจำนวน 659 รายการของสหรัฐที่จะถูกเรียเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 545 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าด้านการเกษตร ยานยนต์ และสินค้าทางทะเล จะถูกเรียกเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจำนวนที่เหลือนั้น จะมีการประกาศหลังจากนั้น
รัฐบาลสหรัฐระบุว่า มาตรการภาษีที่นำมาบังคับใช้กับจีนนั้น มีเป้าหมายที่จะตอบโต้การที่จีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของ สหรัฐ ขณะที่ทางรัฐบาลจีนระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวของจีนมีความสอดคล้องกับกฎหมายการค้าต่างประเทศของจีน และกฎระเบียบว่าด้วยภาษีนำเข้าและส่งออกของจีน อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน