ธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์ คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของมาเลเซียไว้ที่ 5.4% หลังจากที่มาเลเซียได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ด้วยว่า การบริโภคภาคครัวเรือนจะมีการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายริชาร์ด เรคคอร์ด นักเศรษฐศาสตร์ที่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค,การค้า และการลงทุนทั่วโลกจากเวิลด์แบงก์เปิดเผยในวันนี้ว่า เวิลด์แบงก์คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียจะยังแข็งแกร่งต่อไปในระยะเวลาอันใกล้นี้
นายเรคคอร์ดกล่าวว่า การเติบโตดังกล่าวมาจากแรงขับเคลื่อนของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากสภาวะการจ้างงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางทางการเมือง
นายเรคคอร์ดระบุขณะเปิดเผยรายงานการเฝ้าติดตามเศรษฐกิจมาเลเซียของธนาคารโลกว่า เวิลด์แบงก์คาดว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนซึ่งยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญของมาเลเซียจะยังคงแข็งแกร่งขึ้นต่อไปในปีนี้ เนื่องจากการประกาศใช้นโยบายใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการยกเว้นการจัดเก็บภาษีการบริโภคชั่วคราว
นอกจากนี้ เวิลด์แบงก์ยังคาดอีกว่า อุปสงค์การส่งออกจะยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการทั่วโลกที่มีต่อผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของมาเลเซียต่อไป และเข้ามาช่วยสนับสนุนการขยายตัวในเชิงบวก
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของมาเลเซียได้ชะลอตัวลงสู่ระดับ 5.4% ในไตรมาสแรกปีนี้ หลังจากที่ขยายตัว 5.9% ในไตรมาส 4 ของเมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียได้เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับคำสัญญาที่ได้ให้ไว้ในการเลือกตั้ง เวิลด์แบงก์เตือนว่า นโยบายเหล่านั้นจะต้องถูกจัดการด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความเสี่ยงกับประเทศน้อยที่สุด
นายเรคคอร์ดกล่าวว่า มาเลเซียยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงภายในประเทศจากความไม่นอนที่เพิ่มขึ้นในแง่ของแนวโน้มการเติบโตและการเงิน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตลอดจนหนี้สาธารณะและภาคเอกชนที่อยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ดี เขามองว่าความเสี่ยงด้านหนี้สินจะยังอยู่ในวงจำกัดเ นื่องจากมูลค่าหนี้สินส่วนใหญ่อยู่ในรูปของสกุลเงินท้องถิ่น