นายเหงียน จิ สุง รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม (MPI) เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะไม่เผชิญวิกฤติในปีหน้า โดยเวียดนามน่าจะรอดพ้นจากวงจรวิกฤติเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นทุกๆ 10 ปี มาตั้งแต่ปี 2522, 2532, 2543 และ 2552
หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานว่า ช่วงหลายวันมานี้ สื่อในประเทศต่างพากันนำเสนอข่าวเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจกับเวียดนามในปี 2562 โดยบรรดานักวิจารณ์ตั้งข้อสงสัยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจตอนนี้คือการเติบโตรอวันระเบิด
อย่างไรก็ดี นายสุงมองว่า วิกฤติครั้งก่อนๆ นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากตลาดการเงินและอสังหาริมทรัพย์ แต่ในขณะนี้ สถานะการเงินของเวียดนามอยู่ในสภาพที่ดี อันเนื่องมาจากการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นของธนาคารกลาง สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ และอัตราดอกเบี้ยที่มีเสถียรภาพ
โดยในส่วนของตลาดหลักทรัพย์นั้น นายสุงระบุว่าตลาดชะลอตัวลง หลังจากที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยก็ลดความร้อนแรงเช่นกัน ภายหลังรัฐบาลใช้มาตรการขั้นรุนแรงเพื่อควบคุมกระแสการการเก็งกำไรที่ดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่คาดว่าจะกลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าไม่น่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นตามรอบทศวรรษ
อย่างไรก็ตาม นายสุงระบุว่า มีแนวโน้มที่เศรษฐกิจของเวียดนามจะขยายตัวช้าลงตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามปรับตัวลดลงจาก 7.45% ในไตรมาสแรกของปี 2561 เหลือ 6.79% ในไตรมาสสอง ส่งผลให้อัตราการขยายตัวเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 7.08% ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่สูง แต่เวียดนามจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 6.7% นายสุงกล่าวปิดท้าย