กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนพ.ค. ซึ่งบดบังความหวังที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในไตรมาสที่ 2
รายงานของกระทรวงฯระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลดลง 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 281,307 เยน (ประมาณ 2,543 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2559
ขณะเดียวกันทางกระทรวงฯได้คงการประเมินการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนไว้ที่ระดับเดิม โดยระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวลดลงเป็นวงก้าง ตั้งแต่การใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้าน การซื้อเสื้อผ้า ไปจนถึงการซื้อสินค้าคงทน อาทิ โทรทัศน์และกล้องถ่ายรูป
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลงนั้น เป็นผลมาจากวันหยุดในเทศกาลโกเด้นวีคที่มีระยะเวลาสั้นกว่าปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความอ่อนแอของการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกินครึ่งของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นั้น ได้บั่นทอนมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะสามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง หลังจากที่หดตัวลงในไตรมาส 1