รัฐบาลสิงคโปร์ออกมาตรการคุมเข้มการซื้อขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยมีเป้าหมายที่จะกวาดล้างการลงทุนแบบเก็งกำไร ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า มาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายอสังหาริมทรัพย์ และอาจฉุดหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมาตรการคุมเข้มซึ่งได้มีการเปิดเผยหลังจากที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะร้อนแรงนั้น ได้ส่งผลให้ภาษีอากรสแตมป์ (stamp duty) สำหรับผู้ซื้อนั้น ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการยื่นขอกู้เงินเพื่อการซื้อบ้านครั้งแรก ก็จะเผชิญกับข้อจำกัดในการกู้ยืม ส่วนผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นชาวต่างชาติ ก็จะถูกปรับเพิ่มภาษีอากรสแตมป์เป็น 20% จากระดับ 15%
สำนักงานพัฒนาชุมชนเมืองของสิงคโปร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสิงคโปร์พุ่งขึ้น 3.1% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัว หลังจากที่เผชิญภาวะซบเซามาเป็นเวลานานถึง 4 ปี
ราคาบ้านในสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แข่งขันกันประมูลอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่ารัฐบาลสิงคโปร์จะออกมาตรการควบคุม เช่น มาตรการเรียกเก็บภาษีเพิ่ม ไปจนถึงการควบคุมการปล่อยเงินกู้