ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 94.52 จุด หรือ +0.38% เมื่อวันศุกร์ (13 ก.ค.) โดยดาวโจนส์ดีดกลับไปยืนอยู่เหนือระดับ 25,000 จุดได้อีกครั้ง ส่วน S&P 500 ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2,800 จุด และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน หลังฤดูรายงานผลประกอบการได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว ซึ่งธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐได้เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสก่อนตลาดเปิดทำการในวันศุกร์ ซึ่งผลออกมามีทั้งที่ดีกว่าคาดการณ์และแย่กว่าคาด
-- ทำเนียบเครมลินเปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้ นำรัสเซีย จะมีขึ้นในวันนี้ (16 ก.ค.) ที่กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ โดยผู้นำทั้งสองจะหารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี รวมถึงประเด็นต่างประเทศ
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวว่า ปธน.ปูตินพร้อมที่จะเจรจากับผู้นำสหรัฐแบบสองต่อสอง ในการประชุมสุดยอดที่จะมีขึ้นในวันนี้ หากฝ่ายสหรัฐเห็นชอบกับแนวทางด้งกล่าว
-- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า จีนมีรายได้ด้านการคลังเพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 10.43 ล้านล้านหยวน (1.56 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ โดยชะลอลงจากที่ขยายตัว 12.2% ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนรายจ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น 7.8% แตะที่ 11.16 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 53.2% ของแผนงบประมาณประจำปี 2561
สำหรับในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว รายได้การคลังเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แตะ 1.77 ล้านล้านหยวน โดยรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น 8% ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ภาษีลดลง 14.9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน
-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ระดับ 9.03 ล้านล้านหยวน (1.35 ล้านล้านดอลลาร์) โดยเพิ่มขึ้น 1.06 ล้านล้านหยวนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ระดับ 1.84 ล้านล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.15 ล้านล้านหยวนในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ รายงานของธนาคารกลางจีนยังระบุด้วยว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทุกประเภท เพิ่มขึ้น 8.0% ในเดือนมิ.ย. แต่ชะลอตัวจากระดับ 8.3% ในเดือนพ.ค.
-- นายนาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ได้ถูกควบคุมตัวในขณะที่เขาเดินทางจากกรุงลอนดอนมายังเมืองลาฮอร์ ทางตะวันออกของปากีสถาน เพื่อรับโทษจำคุก 10 ปีในข้อหาคอร์รัปชัน โดยนายชารีฟถูกศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 ปี และถูกปรับเป็นเงิน 8 ล้านปอนด์ (10.5 ล้านดอลลาร์) จากความผิดในกรณีซื้ออพาร์ทเมนท์ในกรุงลอนดอน โดยอธิบดีอัยการระบุว่า ศาลตัดสินว่า ห้องพัก 4 ห้องในอเวนฟิลด์ อพาร์ทเมนท์ที่นายชารีฟและครอบครัวถือกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ได้มีการซื้อมาด้วยเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ศาลยังได้ระบุให้มีการยึดทรัพย์ดังกล่าวให้ตกเป็นของรัฐบาลปากีสถาน
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคาร และแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธ
อย่างไรก็ดี สื่อได้เผยแพร่แถลงการณ์ของนายพาวเวลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยแถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ โดยเฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ
-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า GDP ไตรมาส 2 ของจีนจะขยายตัวราว 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ หากตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นการชะลอตัวลงจากระดับ 6.8% ในไตรมาส 1 อย่างไรก็ตาม GDP ยังคงขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ตลอดปีที่ระดับ 6.5%
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนจะเปิดเผยยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรประจำเดือนมิ.ย. ในช่วงเช้าวันนี้ด้วยเช่นกัน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ อินโดนีเซียจะเปิดเผยยอดนำเข้า,ส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ค.ของสหภาพยุโรป ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย. ขณะที่อังกฤษจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมิ.ย. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)