กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในรายงานวิเคราะห์ว่า หากสหรัฐมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์แล้ว สงครามการค้ากับสหรัฐครั้งนี้อาจทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นหดตัวลงมากถึง 0.6%
IMF ระบุว่า "ในกรณีของการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบมากที่สุด" เพราะจากจำนวนสินค้าที่ญี่ปุ่นส่งออกไปสหรัฐทั้งหมดนั้นเป็นยานยนต์ถึง 29%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานวิเคราะห์ดังกล่าวได้ประเมินผลกระทบในกรณีที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์เพิ่มอีก 25% ซึ่งจะทำให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบนั้นประกาศมาตรการโต้กลับในลักษณะเดียวกัน ขณะที่เหล่าผู้ผลิตก็น่าจะมีการปรับลดการลงทุนเมื่อความเชื่อมั่นปรับตัวลดลงทั่วโลก
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังประเมินจากทิศทางความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกด้วย ในกรณีที่รัฐบาลสหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รัฐบาลจีนออกมาโต้กลับในวงเงินเดียวกัน
นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ๆ โดยกล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ล่าสุด IMF ได้ประเมินไว้ที่ 3.9% ในปี 2562 นั้น "อาจเป็นระดับสูงสุดแล้ว"
นางลาการ์ด กล่าวว่า "หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกิดสั่นคลอนจากภาษีนำเข้าเหล่านี้ เราคาดว่า GDP โลกอาจปรับตัวลดลง 0.5% หรือราว 4.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จนหลุดตัวเลขคาดการณ์ปี 2563"
นางลาการ์ด กล่าวว่า "ข้อมูลล่าสุดจากฝั่งยุโรปและเอเชียบ่งชี้ถึงการปรับตัวลงของยอดคำสั่งส่งออกใหม่ ประกอบกับความเชื่อมั่นที่ขึ้นๆลงๆในกลุ่มประเทศส่งออกรถยนต์บางประเทศ รวมถึงเยอรมนี"