ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐได้ออกมาคัดค้านข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์เพิ่มอีก 25% โดยทรัมป์อ้างว่าเพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ
ในระหว่างการแถลงต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเมื่อวานนี้ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทผลิตรถยนต์ของสหรัฐและต่างชาติจำนวน 12 แห่ง รวมถึงเจเนอรัล มอเตอร์ และโตโยต้านั้น ระบุว่า การปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและคนงานชาวอเมริกัน อีกทั้งจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน
เจนนิเฟอร์ โทมัส รองประธานฝ่ายกิจการรัฐบาลกลางของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ดังกล่าว เปิดผยว่า "คิดง่ายๆก็คือว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์ก็คือภาษีจำนวนมากที่เรียกเก็บจากผู้บริโภค" พร้อมระบุถึงการวิเคราะห์ในภาคอุตสาหกรรมว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จะทำให้ราคารถยนต์นำเข้าพุ่งขึ้นเกือบ 6,000 ดอลลาร์ และทำให้ราคารถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐเพิ่มขึ้น 2,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ โทมัสยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่หลายประเทศอาจใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐ โดยระบุว่า การตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรจะส่งผลให้การส่งออกรถยนต์ของสหรัฐทรุดตัวลง อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและทำให้ศักยภาพการแข่งขันของสหรัฐถดถอยลงด้วย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปัจจุบัน สหรัฐได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์เอาไว้ที่ 2.5% และรถบรรทุก 25%
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้เริ่มตรวจสอบการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ตามมาตรา 232 ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีในอัตราใหม่จากประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อย่างญี่ปุ่นและเยอรมนี