สำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซียเปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปรับตัวลง 12.77% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 4.1 หมื่นล้านริงกิต (1.008 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2560 หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 4.7 หมื่นล้านริงกิตในปี 2559
แถลงการณ์ระบุว่า ยอด FDI เมื่อปีที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดเงินที่มาจากภาคบริการ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 48.2% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ การเงิน การประกัน และการประกันตามหลักศาสนาอิสลาม (ตะกาฟุล) รวมถึงด้านข้อมูลและการสื่อสาร
ภาคเหมืองหินและเหมืองแร่มียอด FDI ตามมาเป็นอันดับที่สอง หรือ 31.2% ขณะที่ภาคการผลิตมียอด FDI เป็นลำดับที่ 3 คิดเป็นสัดส่วน 15.7%
ทั้งนี้ เอเชียเป็นภูมิภาคหลักที่สร้างเม็ดเงิน FDI ให้กับมาเลเซีย โดยคิดเป็นสัดส่วนทั้งสิ้น 63.5% ตามมาด้วยยุโรปและแอฟริกา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮ่องกงเป็นผู้ที่ลงทุนในมาเลเซียมากที่สุด คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 7.5 พันล้านริงกิต ขณะที่จีนมียอดการลงทุน 6.9 พันล้านริงกิต แซงหน้าแชมป์เก่าอย่างสิงคโปร์ที่เคยคว้าอันดับ 2 ในการลงทุนในมาเลเซีย