ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ขณะที่หุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรพุ่งขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวได้ดีในเดือนก.ค.
-- บิตคอยน์พุ่งทะลุ 8,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน หลังจากที่ปรับตัวซบเซาเป็นเวลาหลายสัปดาห์
ทั้งนี้ บิตคอยน์ดีดตัวแตะ 8,342.62 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ และทะยานขึ้นมากกว่า 7% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
-- นายซันนี เพอร์ดิว รมว.เกษตรสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะให้ความช่วยเหลือคิดเป็นวงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการที่ประเทศอื่นเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าเกษตรของสหรัฐเพื่อตอบโต้มาตรการทางภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
-- นายยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า ปธน.ปูตินและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ อาจพบปะกันนอกรอบการประชุมระหว่างประเทศ และขณะนี้รัสเซียไม่มีการเตรียมการใดๆสำหรับการจัดการประชุมสุดยอดของผู้นำทั้งสองในสหรัฐ
-- บริษัทฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีผลกำไรลดลง 6.4% สู่ระดับ 242.3 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เทียบกับระดับ 258.9 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังระบุแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ที่อาจลดต่ำลง 9-10% โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานระบุว่า ดอลลาร์มีมูลค่าสูงเกินไป ขณะที่หยวนมีมูลค่าสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน
รายงานระบุว่า ค่าเงินหยวนดิ่งลงอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
หยวนร่วงลงแตะ 6.8295 เทียบดอลลาร์ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ขณะที่เจ้าหน้าที่จีนส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
IMF ยังระบุว่า ดอลลาร์มีมูลค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานในระยะกลาง โดยมากเกินไป 8-16% ในปีที่แล้ว
รายงานระบุว่า การเกินดุลและขาดดุลของตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดกำลังมีการกระจุกตัวมากขึ้นในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ อ่อนตัวลงสู่ระดับ 55.9 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากแตะ 56.2 ในเดือนมิ.ย. โดยการปรับตัวลงของดัชนี PMI ในเดือนมิ.ย. ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงาน แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่ดีดตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
-- ธนาคารกลางตุรกีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงิน สวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00-1.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้พุ่งแตะ 15.39% โดยเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี
ทั้งนี้ ธนาคารกลางประกาศคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 17.75%
-- อัลฟาเบท อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล อิงค์ รายงานผลกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ อัลฟาเบทเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 11.75 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 3.266 หมื่นล้านดอลลาร์
-- นายบาห์ราม กาสเซมิ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านจะทำการตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐพยายามที่จะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
"หากอเมริกาต้องการจะดำเนินมาตรการนี้ ก็จะต้องพบกับการตอบโต้อย่างสาสมจากอิหร่าน" นายกาสเซมิกล่าว
อย่างไรก็ดี นายกาสเซมิไม่ได้ระบุรายละเอียดการตอบโต้ของอิหร่าน แต่นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ขู่ก่อนหน้านี้ว่า อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ หากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐกระทบต่อการส่งออกของอิหร่าน
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความระบุว่า ภาษีศุลกากรถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่ใช้ในการเจรจาต่อรองเพื่อให้สหรัฐได้เปรียบในการทำข้อตกลงการค้า
"ภาษีศุลกากรเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หากประเทศที่มีการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐไม่มาเจรจาทำข้อตกลงที่เป็นธรรม ประเทศนั้นก็จะถูกตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากร นี่เป็นเรื่องง่ายๆ และทุกคนก็กำลังพูดกัน จงจำไว้ว่า เรากลายเป็นกระปุกออมสินที่กำลังถูกปล้น" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
-- สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง 3.16 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค.
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โพลล์สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยบลูมเบิร์ก บ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ของเกาหลีใต้ อัตราเงินเฟ้อไตรมาส 2/2561 ของออสเตรเลีย ดัชนีภาวะธุรกิจเดือนก.ค.จากสถาบัน Ifo ของเยอรมนี รวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ของสหรัฐ
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 เยอรมนีเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก GfK ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมจัดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย.