กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวเพียงระดับปานกลางในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลดลง 1.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 267,641 เยน (ประมาณ 2,403 ดอลลาร์)
ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงฯได้คงการประเมินการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนไว้ที่ระดับเดิม โดยระบุว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ เนื่องจากตัวเลขค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวและการปรับปรุงบ้านร่วงลง
ข้อมูลระบุว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการส่งออกและรายจ่ายเพื่อการลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. โดยนักวิเคราะห์จากภาคเอกชนคาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ จะขยายตัวที่ระดับ 1.2%
อย่างไรก็ดี แม้ตัวเลขการใช้จ่ายจะอ่อนแอลง แต่ทางกระทรวงฯก็ได้เปิดเผยว่า ตัวเลขการบริโภคจะเริ่มขยายตัวขึ้น เนื่องจากมาตรวัดรายรับปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายได้เฉลี่ยของครอบครัวที่มีเงินเดือนและมีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปอยู่ที่ 808,716 เยน หรือขยับขึ้น 4.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขยายตัวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558
ทั้งนี้ ตัวเลขที่ปรับตัวขึ้นนั้นอาจเป็นผลดีต่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOK) ในแง่ของการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้กำไรขององค์กรปรับตัวแข็งแกร่ง รวมถึงค่าแรงที่เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นด้วย